วันจันทร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2557

Just Said

บอกได้เลยว่าน่าเสียดายมากๆ สำหรับข่าวคราวต่างๆ ที่นักข่าวหลายๆ สำนักได้ตีพิมพ์ข่าวกันไปต่างๆ นานา สืบเสาะ เลาะเลี้ยว เสาะหาหมอดู หมอเดา จากหลายๆ แขนงให้ได้เขียนนข่าวกันไปต่างๆ นานา แต่สุดท้ายจนแล้วจนรอด พิมพ์ซิลิโคน ก้อไม่ได้แตกอย่างที่คิด ก้อยังใช้ชีวิตกันอยูู่ได้ปกติดีมีสุขกัน ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไรกันตรงไหน ถ้าจะให้สาธยายกัน ก้อคงต้องบอกได้แต่เนิ่นๆ เลยว่าประวัติความเป็นมานั้นมาจากชนเผ่าดั้งเดิม คือ ชนเผ่านั่งยันนอนยัน แต่สมัยก่อนไดโนเสาร์นู่นซะอีก แล้วไปขุดหรือพบเจออะไรอีท่าไหนล่ะเนี่ย ถึงได้รู้ไปหมดซะทุกเรื่องล่ะนี่ แต่ก้อนะ ทุกสิ่งที่ได้ทำนายทายทักเอาไว้ ก้อไม่ได้เกิดขึ้นจริงดังที่พูด หรือที่โพนทนากันมา เรียกได้ว่าอาจจะหน้าแตกกันเป็นแถวๆ เลยก้อว่าได้ พวกที่ทำตัวเป็นเหมือนบุคคลที่อายุในวงการเยอะหน่อย ก้อฟังธงกันฉับๆ ๆ ไม่ถูกเอาชื่อชงชื่อเสียงเป็นเดิมพันกันก้อมี แต่สุดท้ายไม่เห็นมีใครออกมายอมรับผิดกันสักคนหายเงียบเข้ากีบเมฆกันไปหมดเลย สุดท้ายก้อไม่มีอะไรดีขึ้น แต่ถ้าจะให้มานั่งคิด นั่งยันนอนยัน แล้วก้อคงคิดได้ไม่ตกกันเสียทีว่า
ถ้า พิมพ์กดข้าว นั้นแตกขึ้นมาจริงๆ ข้าวคงหกกระจายแตกเสียหายกันไปหมด ก้อได้มีมานั่งเก็บกันแน่ๆ ฮาเลยทีนี้ เมล็ดข้าวยิ่งเหนียวๆ กันอยู่ เก็บยากบรมเลย ทำยังไงกันดีล่ะพี่น้อง แต่สุดท้ายแล้วอาจจะไม่ได้มาเจอหรือนั่งเขียน นั่งบ่นตรงนี้ก้อได้เน๊าะ ที่เหลือรอดน่าจะอยู่่ที่แบคทีเรีย หรือจุลทรีย์ที่เราไม่อาจจะมองเห็นก็เป็นได้ ก้อคงต้องแลดูกันในอากาศประมาณนั้นแล นั่งเขียน เอ๊ย พิมพ์ไปก้อตระหนักคิดได้ไป คงจะกลายเป็นฝุ่นธุลีมอดม้วยหายไปในอวกาศกันจนหมดล่ะนะ เอาเถอะ แต่ไหนแต่ไรก้อไม่แตกอยู่แล้วนี่นา ไปๆ มาๆ ชักรู้สึกซะแล้วสิว่าตัวดิฉันเองนั้นพูดเพ้อเจ้อ ฟุ้งซ่านได้ยิ่งกระไรล่ะเนี่ย อาจจะบ่นพร่ำเพ้อยิ่งกว่าชนเผ่านั่งยันนอนยันจนสันหลังยาวเสียอีกนะเนี่ย ไหนไหนก้อหนายไหนแล้วโลกก้อม่ายด้ายแตกอย่างที่เราได้ตรระหนักคิดเนาะ ก้อเลยต้องวนกลับมาในเรื่องเก่าที่ต้องเอากลับมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้งนึง เป็นเรื่องที่เขียนหรือหยิบยกได้กล่าวกันมาเหมือนเดิมๆ กันทุกปี อาจจะเป็นเพราะไม่มีมุกใหม่ จะเขียนแล้วก้อเป็นได้ แต่การสรุปเรื่องราวต่งๆ

ในรอบปีนั้นก้อเป็นสิ่งที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้อ่านได้เป็นอย่างดี เพราะว่าเรื่องราวเหล่านี้นั้นไม่ได้มีแต่น้ำนะ เนื้อล้วนๆ เรื่องแรกเลยก้อคือ แม่พิมพ์ทำสบู่ ที่ต้องลำบากลำบนกันไปเรียน ถ้าย้อนไปในประวัติศาสตร์แล้วล่ะก้อ ได้มีบันทึกเอาไว้เหมือนกันว่า มีมาแต่โบราณกาล สมัยนั้นยังไม่มีสีสันและรูปทรงอย่างสมัยนี้ อีกทั้งยังทำจากสมุนไพล้วนๆ อีกด้วย ทำให้เราได้เซอร์ไพร้กันเสียนี่กระไร แต่จะให้ย้อนไปมากเดี๋ยวก้อคงจะเบ่อซะก่อนเอาเป็นว่าเล่าแค่พอสังเขปก้อเป็นพอ ม่ายเช่นนั้นแล้วอาจจะต้องกางเต้นท์ ซื้อยากันยุงมานั่งจุดกันเลยทีเดียว แหม ว่าปายนั่น ช่วงนี้ยงชุมเหมือนกันนะเนี่ย ลืมไปเลย เพี้ยะ นี่แน่ะ กัดเราช่ายม้าย ต้องโดนสักทีสองที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น